เราอาจเคยได้ยินคำพูดที่กล่าวว่าการเป็นนายตัวเองคือการออกมาทำตามความฝันของตัวเอง หมดเวลาของการเป็นลูกจ้างให้คนอื่นเเล้ว อันที่จริง การเป็นนายของตัวเองไม่ได้หมายถึงการทำธุรกิจส่วนตัว มีลูกน้องคอยทำงานเเทนเเละเลิกทำงานบริษัทเสมอไปครับ การเป็นนายของตัวเองคือการที่เรามีเป้าหมาย มีฝัน เเละรู้ตัวว่าเส้นทางใดจะพาไปถึงจุดหมายดังกล่าว บางคนอาจอยากมีร้านกาเเฟ เเต่บางคนมีเป้าหมายว่าจะก้าวไปสู่ตำเเหน่งผู้บริหารขององค์กร การเป็นนายตัวเองจึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่การลาออกมาลงมือสร้างธุรกิจของตนเองเพียงอย่างเดียว
นอกจากจะมีเป้าหมายของชีวิตที่เเน่วเเน่เเล้ว การเป็นนายของตัวเองยังหมายถึงการควบคุม บังคับจิตใจของตัวเองให้เดินไปในทางที่เหมาะสม อย่างเช่นการทำงานอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปวันๆอย่างเฉื่อยชา หลายคนเมื่อทำงานไปหลายๆปีก็เริ่มหมดไฟ ไม่กระตือรือร้นเหมือนเคย ลองถามตัวเองดูนะครับว่า คุณกำลังเดินไปสู่เป้าหมายที่เคยฝันไว้รึเปล่า สิ่งที่ทำอยู่นั้นช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายนั้นหรือไม่ หากไม่ใช่ ได้เวลาลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเเล้วครับ หากคุณต้องการเลื่อนตำเเหน่ง การทำงานหนักให้ผลงานโดดเด่นกว่าคนอื่นๆย่อมเป็นเรื่องสำคัญ อาจต้องขยันมากขึ้น หาเเนวคิดใหม่ๆเพิ่มเติม ปลุกไฟในตัวคุณขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหากคุณทำงานไปเรื่อยๆเเบบไม่มีไฟในการทำงาน ใครจะมาเคารพนับถือเเละยอมให้เราขึ้นไปเป็นหัวหน้าที่ต้องคอยดูเเลหรือเป็นนายให้แก่บรรดาลูกน้องคนอื่นๆ ในเมื่อเรายังเป็นนายของตนเองไม่ได้เลย การจะเป็นนายคนอื่นได้นั้นจึงต้องเริ่มจากการเป็นนายของตัวเอง พาตัวเองไปยังทิศทางที่ถูกต้องก่อนครับ
สามารถติดตามบทความแง่คิด สาระแนะนำสำหรับคนทำงานได้จากบทความ “Inspiration” จาก JOBTOPGUN ได้ทุกสัปดาห์นะคะ