ทุกวันนี้โลกออนไลน์นั้นมีบทบาทสำคัญมากมายในชีวิตประจำวันของผู้คน จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีผู้คนมากมายเริ่มหันมาสนใจที่จะทำธุรกิจออนไลน์ หรือการขายของออนไลน์กันมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ดูจะทำได้ไม่ยากนัก แถมไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากก็ทำได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด

     การทำธุรกิจหรือการขายของออนไลน์นั้น ไม่ได้เรียบง่ายและสวยหรูเหมือนที่ใครหลายคนวาดฝันไว้ ยิ่งหากจะทำธุรกิจหรือขายของให้ประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย หากขาดการศึกษาข้อมูล หรือเตรียมตัวมาไม่ดี ก็อาจขาดทุนและท้ายที่สุดก็ต้องล้มเลิกความคิดนี้ไป เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงได้นำคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเพื่อจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลย

1.ชื่อร้าน 

     ชื่อร้านเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ควรมองข้าม และการจะตั้งชื่อร้านก็ไม่ควรตั้งขึ้นมามั่วๆตามใจชอบ หรือเอาแปลกเข้าว่า เพราะบางครั้งหากชื่อแปลกมากเกินไป ก็จะทำให้ไม่คุ้นหู เรียกยาก หรือชวนเช้าใจผิดได้ ดังนั้นชื่อร้านควรจะเป็นชื่อที่สามารถจดจำได้ง่าย อ่านและออกเสียงได้ไม่ยากจนเกินไป และชื่อร้านควรสัมพันธ์กับสินค้าที่ขายด้วย

2.สินค้า 

     ตัวสินค้าที่จะนำมาขายนั้น หากให้ดีควรเป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบอยู่แล้ว เพื่อที่เวลามีลูกค้าหรือผู้สนใจมาติดต่อสอบถามสินค้า คุณจะได้ให้ข้อมูลได้เป็นอย่างดี และอีกกรณีหากคุณไม่ได้มีสินค้าประเภทไหนที่ชอบเป็นพิเศษ แต่อยากจะมีร้านขายเป็นของตัวเอง ก็ควรเริ่มที่การสำรวจดูว่าตลาดนั้นต้องการสินค้าประเภทไหน และแน่นอนว่าต้องศึกษาข้อมูลของสินค้าตัวนั้นๆเป็นอย่างดีก่อนนำมาขายด้วย

3.ต้นทุน 

     ในการจะทำการค้าขายนั้น ต้องวางแผนเรื่องของงบประมาณให้ดี เพราะต้นทุนนั้นไม่ได้มีแค่ค่าตัวสินค้าเท่านั้น ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดส่ง ค่าแพ็กสินค้า หรือค่าโฆษณาเป็นต้น

4.แผนการตลาด 

     เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะมาชี้วัดเลยว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะต่อให้สินค้าดีแค่ไหน แต่ไม่มีใครรู้จักก็เท่านั้น ดังนั้นคุณต้องมีการวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณ เช่นโปรโมตร้านค้าและสินค้าของคุณอย่างไรให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้า โฆษณาร้านแบบไหนถึงจะทำให้คนรู้จักร้านค้าและสินค้าของคุณ

5.ช่องทางการขาย 

     มีร้านแล้ว มีสินค้าแล้ว ต่อมาก็ช่องทางที่จะขาย และเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของร้าน เพราะแต่ละช่องทาง ก็มีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น การขายสินค้าทางเพจ Facebook ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็เพราะว่าสินค้าของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เยอะที่สุด เนื่องจากจำนวนคนที่เล่น Facebook นั้นมีเยอะ หรือทาง LINE และ LINE@ ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ซึ่งส่วนมากเป็นช่องทางที่ทีไว้คุยแชทโดยตรงกับลูกค้า ส่วนใหญ่จึงใช้ช่องทางนี้ในการติดต่อกับลูกค้าเก่า เช่นติดต่อแจ้งปัญหา หรือโปรโมชั่นต่างๆ

6.ช่องทางการชำระเงิน 

     ควรจะมีหลายช่องทางให้ลูกค้าได้เลือกตามความสะดวกของแต่คน โดยคุณควรเปิดบัญชีกับทางธนาคารที่เป็นที่นิยม และมีบริการรองรับหลากหลาย มากกว่าจะเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยเยอะแต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม

7.เวลา 

     หากจะขายของออนไลน์แล้ว ก็ต้องมีการบริหารจัดการเวลาที่ดี เพราะลูกค้ามีความอดทนและความต้องการที่จำกัด หากลูกค้าติดต่อมาแล้วคุณโต้ตอบไม่ทันการ ลูกค้าก็อาจหมดความสนใจ และนั่นอาจทำให้คุณเสียลูกค้าได้เลย

     อย่างไรก็ดีทั้งหมดที่แนะนำมานี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น หากสนใจที่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย