ในตอนที่สมัครงานว่าตื่นเต้นแล้ว ตอนรอลุ้นผลของการสมัครงานนั้นกลับลุ้นยิ่งกว่า สำหรับบางคน การสมัครงานเป็นตัววัดผลชี้ชะตาชีวิต คงจะดีกว่าหากเรามีวิธีเพิ่มโอกาสในการสมัครงานผ่าน เพื่อเข้าไปทำงานที่ใฝ่ฝันได้ไม่ยาก แน่นอนว่าเรามีเคล็ดลับเกี่ยวกับเรื่องนั้นรออยู่แล้ว มาดูกันดีกว่าว่าอะไรที่จะส่งผลให้เปอร์เซ็นในการสมัครงานผ่านมีเพิ่มมากขึ้นจากเดิม

แนวทางในการเพิ่มโอกาสเพื่อให้สมัครงานผ่านได้ไม่ยากอย่างที่เคย

          ไม่ว่าจะกับผู้ที่พึ่งเรียนจบและต้องการหางานหรือผู้ที่สมัครงานมาหลายครั้งแล้ว แต่อาจจะยังไม่ผ่านก็ตาม แนวทางในบทความนี้ จะสามารถช่วยให้คุณมีโอกาสในการสมัครงานผ่านอย่างแน่นอน มาดูกันดีกว่าว่าเรายังขาดคุณสมบัติข้อไหนบ้าง

1. ศึกษาข้อมูลของบริษัทที่ต้องการสมัครงานให้มากที่สุด

          คำพูดที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” การศึกษาข้อมูลของบริษัทที่เราต้องการสมัครงาน จะช่วยให้เราสามารถรู้ได้ว่าควรจะทำยังไงให้มีโอกาสในการได้งานที่นี่ โดยควรรู้ตั้งแต่แนวทางการทำงานของบริษัทไปจนถึงทัศนคติของเจ้าของบริษัทเลยทีเดียว อีกอย่างก็คือ จะได้เป็นการทบทวนด้วยว่าตัวเราเหมาะสมกับสถานที่นี้จริงๆ หรือไม่ 

2. เอาใจใส่กับอีเมล์และเรซูเม่

          ด่านแรกของการยื่นสมัครงานก็คืออีเมล์และเรซูเม่ หากเราทำได้ดีตรงจุดนี้ การสร้างความประทับใจแรกของบริษัทต่อตัวเราไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่เราควรเอาใจใส่ก็คือภาษาที่ใช้ในการเขียนและตรวจเช็คว่าเราใส่ข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนแล้วหรือยัง แต่ข้อมูลบางอย่างก็ไม่จำเป็นจะต้องใส่ทั้งหมดเพื่อความกระทัดรัด เช่น ประวัติการทำงาน ควรเลือกใส่เฉพาะประวัติที่คิดว่าเหมาะสมในการนำไปพิจารณาต่อการสมัครงานปัจจุบันก็พอ 

3. ทำให้ฝ่าย HR มองเห็นถึงความเหมาะสมในตัวคุณ 

          การวางตัวเพื่อสร้างความประทับใจเมื่อแรกพบระหว่างคุณกับแผนก HR เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คุณควรที่จะแต่งตัวให้ดูดี เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่คุณอยากได้ กิริยาท่าทางต่างๆ ก็ควรที่จะสอดคล้องกับงานนั้นๆ เพื่อให้คนในบริษัทเห็นว่าคุณเหมาะสมจริงๆ นี่แหละที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานให้กับคุณอย่างมากเลย

4. ใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปในทุกๆรายละเอียด

          บางคนอาจจะคิดว่าการเป็นตัวของตัวเองไม่ใช่เรื่องดี แต่จริงๆ แล้วการปิดบังตัวตนนั้นแย่ยิ่งกว่า เพราะภาพจำของเราในวันแรกกับวันที่ได้งานควรที่จะเป็นภาพเดียวกัน หากทางบริษัทมารู้ทีหลังว่าคุณเสแสร้งแกล้งทำเพื่อให้ได้งานนี้มา สุดท้ายแล้วคุณก็อาจจะต้องเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ เพราะหาสิ่งที่ใช่ไม่เจอเสียที อีกอย่างทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใสซื่อจนดูคุณไม่ออกว่าคุณเสแสร้งหรือเปล่า ดังนั้น การเป็นตัวของตัวเองตอนสมัครงานจึงเป็นเรื่องที่ควรทำนั่นเอง

5. อย่าพูดถึงเรื่องราวที่ไม่ดีของงานเดิม

          การพูดถึงเรื่องราวในแง่ลบ อาจส่งผลให้คะแนนของคุณติดลบได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากทัศนคติในด้านนี้เป็นด้านที่ควรระมัดระวัง เพราะมันอาจไม่เข้าตาคณะกรรมการสัมภาษณ์งาน ดังนั้นการหลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องไม่ดีที่ผ่านๆ มา จะเป็นผลดีมากกว่าในการสมัครงานใหม่ เอาไว้สมัครงานผ่านแล้วค่อยไปเมาท์กับเพื่อนที่ทำงานใหม่ยังไม่สาย 

          และนี่ก็เป็นแนวทางในการเพิ่มโอกาสในการได้งานของคุณ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่การเตรียมตัวหางานแล้วได้งานกันทุกคนนะคะ