ไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังมองหางาน อยากเปลี่ยนสายงาน ต้องการงานใหม่ (ที่ดีกว่าเดิม) หรือแม้แต่เหล่านักศึกษาจบใหม่ที่อยากคว้างานในฝันเอาไว้ สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้การหางานเป็นไปอย่างราบรื่น ได้งานที่ใช่ตรงใจแน่นอน คงหนีไม่พ้นการเตรียมตัว เตรียมข้อมูล และวางแผนให้พร้อมก่อนสมัครงานนั่นเอง และนี่คือ “5 ข้อที่ต้องจำให้ขึ้นใจก่อนหางานใหม่ รวมเทคนิคหางานอย่างไรให้ปังไม่มีพังแน่นอน” ที่เรารวบรวมมาให้ ไม่แน่ว่าหากลองนำไปใช้ งานที่กำลังเล็งไว้อาจกลายเป็นของเราในอนาคต

5 กลยุทธ์ในการหางาน หางานใหม่อย่างไรให้ได้งานที่ใช่

1. รู้ความต้องการที่แท้จริงและมองหางานที่ใช่ของตัวเอง

               เมื่อเราเริ่มต้นมองหางานใหม่ นั่นแปลว่า งานที่กำลังทำอยู่นั้นไม่ตอบโจทย์ ไม่ตรงกับความต้องการ รวมไปถึงทิศทางในการเติบโตและอนาคตที่ไม่แน่นอน อันดับแรกเราควรกลับมาพิจารณาความต้องการที่แท้จริงก่อนว่าเราต้องการงานแบบไหน อะไรคือเป้าหมายและสิ่งสำคัญที่สุดในงานที่เรามองหา สำหรับบางคนอาจเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนในระดับที่
พึงพอใจ แต่บางคนอาจขอแค่เป็นงานที่ชอบและมีเวลาให้ใช้ชีวิต หรือบางคนอาจขอแค่ได้ทำงานที่ใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางฝ่าการจราจรทุกวัน หากเรารู้ว่าตัวเองต้องการทำงานในแบบไหนก็จะยิ่งสามารถโฟกัสกับการหางานนั้น ๆ ได้ดีกว่าการเหวี่ยงแหหางานไปโดยการสุ่มหรือหางานให้เยอะ ๆ ไว้ก่อน
               หลังจากกำหนดความต้องการได้แล้ว ก็เริ่มมองหางานที่ใฝ่ฝันกันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บหางานต่าง ๆ หรืออาจจะลองเข้าไปยื่นใบสมัครกับองค์กรที่กำลังเปิดรับพนักงานใหม่ก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่า งานที่ใช่และเล็งไว้นั้นเป็นงานที่เหมาะกับความรู้ความสามารถของเราด้วยหรือไม่ หากคิดว่าทักษะที่มียังไม่พอ ก่อนสมัครงานควรไปหาความรู้หรือหาประสบการณ์ในสายงานนั้น ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้การหางานใหม่นี้ไม่ทำให้เราเสียเวลาและเสียโอกาสโดยใช่เหตุ

2. ศึกษาหาข้อมูลและทำความรู้จักองค์กรให้มากที่สุด

               ก่อนจะยื่นใบสมัครงานกับบริษัทหรือองค์กรไหน เราควรต้องทำการบ้านเกี่ยวกับสถานที่ (ที่อาจจะได้) ทำงานใหม่นี้ไปก่อน เพราะคำว่ารู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้งนั้นยังใช้ได้เสมอ การหาข้อมูลขององค์กรต่าง ๆ นั้นไม่ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ลองค้นหาข้อมูล ประวัติ ผลงานของบริษัท เพื่อศึกษาวัฒนธรรมองค์กร ดูรายละเอียดของงานในตำแหน่งที่สนใจ ไปจนถึงเป้าหมายขององค์กรที่อาจบอกได้ว่าตรงกับทัศนคติในการทำงานของเรามากน้อยแค่ไหน ทั้งในเว็บไซต์ของบริษัท โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์หางานต่าง ๆ
               นอกจากนี้เรายังสามารถหาข้อมูลรีวิวบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ที่เปิดพื้นที่
ให้คนทำงานเข้ามารีวิวและให้คะแนนบริษัทตามความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น www.yousayhrsay.com เว็บไซต์สร้างสรรค์ที่รับฟังความคิดเห็นและให้พื้นที่ทั้งฝ่ายตัวพนักงานและฝ่ายบุคคลขององค์กรได้เข้ามาให้ข้อมูลเชิงลึก แบ่งปันประสบการณ์ รวมทั้งเช็กฟีดแบ็กต่าง ๆ ในการทำงาน โดยเน้นให้ข้อเท็จจริงเป็นหลัก ซึ่งเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหางานในองค์กรเหล่านั้นให้ได้รับรู้ข้อมูลและนำไปใช้พิจารณาก่อนตัดสินยื่นใบสมัครงาน

3. สร้างเรซูเม่และจดหมายสมัครงานให้โดดเด่นและน่าประทับใจ

               อีกสิ่งสำคัญในการหางานใหม่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ “เรซูเม่” (Resume) และ “จดหมายสมัครงาน” (Cover Letter) ที่โดดเด่นและสร้างความประทับใจให้กับฝ่ายบุคคลที่ต้องรับมือและคัดสรรใบสมัครงานมากมายในแต่ละวัน สำหรับเรซูเม่ นอกจากควรจะอ่านง่าย สบายตา สั้นกระชับได้ใจความแล้ว เมื่อกำลังจะหางานใหม่อย่าลืมนำมาปรับปรุงและอัพเดตผลงานต่าง ๆ ที่ได้ทำก่อนหน้าอีกครั้ง ที่สำคัญควรเพิ่มเติมทักษะใหม่ ๆ ที่เราได้เรียนรู้ หรือประสบการณ์พิเศษต่าง ๆ เช่น เข้าร่วมการอบรม สัมมนา เรียนคอร์สออนไลน์ต่าง ๆ หรือได้ทำงานโปรเจกต์พิเศษที่แตกต่างกับงานที่ทำประจำ เพื่อให้เรซูเม่ของเราดึงดูดความสนใจและได้รับการพิจารณามากขึ้น
               สำหรับจดหมายสมัครงานที่หลายคนอาจมองข้ามและไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร อันที่จริงแล้ว การเขียนจดหมายสมัครงานอย่างใส่ใจและเป็นไปแบบมีมารยาทต่อองค์กร
จะช่วยให้จดหมายของเราได้รับการเปิดอ่านมากกว่าการจดหมายที่ส่งไปแบบห้วน ๆ ไม่มี
รายละเอียด หรือการส่งผลงานหรือเรซูเม่ไปโดยไม่มีการแนะนำตัว โดยการเขียนจดหมายสมัครงานที่ดีควรกระชับ ตรงประเด็น ได้ใจความ และใช้ภาษาที่เป็นทางการ ที่สำคัญอย่าลืมศึกษาความต้องการของบริษัท (ถ้ามี) ด้วยว่าอยากได้ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ มากน้อย
แค่ไหน เพื่อให้จดหมายของเราตรงใจฝ่ายบุคคลมากที่สุด

 4. เตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานแบบมือโปร

               หากมั่นใจแล้วว่าจะได้เรียกสัมภาษณ์ ลำดับถัดมาคือการเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์อย่างเป็นมืออาชีพ อย่างแรกควรแต่งกายไปสัมภาษณ์อย่างสุภาพและคำนึงถึงกาลเทศะ (แม้จะเป็นการสัมภาษณ์งานทางออนไลน์) เพื่อสร้างความประทับใจแรกให้มากที่สุด เมื่ออยู่ในขั้นตอนการพูดคุย ควรตอบคำถามอย่างชัดเจน มั่นใจ และคิดให้ดีก่อนตอบ ที่สำคัญควรให้ข้อมูลต่าง ๆ ตามความเป็นจริง โดยไม่โกหกหรือสร้างภาพ ซึ่งอาจจะกลายเป็นคำพูดที่กลับมาทำร้ายตัวเองได้ นอกจากนี้อย่าลืมถามคำถามที่เราอยากรู้เกี่ยวกับงานและองค์กร
ให้ครบถ้วน เพื่อให้เราได้ตัดสินใจก่อนเข้าทำงานจริงอีกครั้ง

5. อย่าลืมแสดงความสนใจและติดตามผลการสมัครงาน

               ไม่ต้องกังวลว่าเราจะรบกวนองค์กรมากเกินไป เพราะเราสามารถติดต่อฝ่ายบุคคล ทั้งทางโทรศัพท์และอีเมล์สำหรับผลการสัมภาษณ์ การขอรับทราบผลการสัมภาษณ์จะช่วยให้เราไม่ค้างคาใจและตัดสินใจในการหางานใหม่ต่อไปได้ อย่าลืมว่าการสมัครงานที่บริษัทเดิมมากกว่า 1 ครั้งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่อาจกลายเป็นการผลักดันให้ตัวเราได้พัฒนาและฝึกฝนทักษะเพิ่มเติมได้มากขึ้น นอกจากนี้ การติดตามผลการสมัครงานยังแสดงถึงความสนใจและความกระตือรือล้นในการทำงานนั้น ๆ ให้องค์กรได้เห็นอีกด้วย


               ใครกำลังมองหางานใหม่ที่ใช่ในแบบของตัวเอง ลองเข้าไปค้นหางานดี ๆ ได้ที่ www.jobtopgun.com หรือไปอ่านรีวิวบริษัทชั้นนำต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่ www.yousayhrsay.com