คำว่า “ช่องว่างระหว่างวัย” สำหรับหลายๆองค์กรนั้นถือว่ายังเป็นปัญหาระดับต้นๆที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกิดความบาดหมางกันระหว่างการทำงาน เนื่องจากมีความคิด ความเชื่อ และรูปแบบการทำงานที่ต่างกัน ดังนั้น หากอยากให้งานออกมามีประสิทธิภาพนั้น อาจจะต้องถอยคนละก้าวและปรับความเข้าใจกันในทุกๆ Generation ซึ่งเทคนิคที่จะนำมาปรับใช้มีอะไรไปดูกันค่ะ
1. แตกต่างแต่ไม่แตกแยก
ต้องเข้าใจความต่างของกลุ่มทั้ง 4 Gen ได้แก่ Gen-B (Baby Boomer พ.ศ.2489-2507) จะเป็นพวกอนุรักษณ์นิยม มีความอดทนสูง Gen-X (พ.ศ.2508-2522) กลุ่มที่ทำงานตามหน้าที่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง Gen-Y (พ.ศ.2523-2540) กลุ่มที่โตมาพร้อมเทคโนโลยี แต่จะไม่ทนหากสิ่งนั้นไม่ตอบโจทย์ชีวิต และGen-Z (พ.ศ.2540 เป็นต้นไป) กลุ่มเด็กยุคใหม่ที่เกิดมาพร้อมเทคโนโลยีครบทุกด้าน ยอมรับความต่างง่าย
2. หาจุดร่วมที่แฮปปี้
เพราะบางครั้งการทำงานที่แตกต่างของคนแต่ละ gen นั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันสักเท่าไหร่ จุดที่ทำได้ก็คือต้องหาจุดร่วม แต่อาจจะมองข้ามจุดต่างไปบ้างให้ได้เพื่อขจัดความขัดแย้ง เช่น หากเถียงกันมานานแต่หาข้อสรุปไม่ได้ ให้โฟกัสจุดร่วมที่ทั้ง 2ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันมากที่สุดและต้องเป็นจุดที่จะทำให้งานออกมาสมบูรณ์มากที่สุดด้วย
3. ยึดความเป็นมืออาชีพ
ข้อแรกที่ควรจะมีในการทำงานกับคนต่างวัย คือ การทำงานเป็นมืออาชีพตั้งต้น เมื่อมีคำว่ามืออาชีพ ก็ย่อมจะเปิดใจรับความต่างและให้ความสำคัญกับการทพงานให้ได้มาเป็นอันดับหนึ่ง อย่าทำให้งานล่าช้าเนื่องจากความขัดแย้งจากการร่วมงานคนหลาย gen เกิดขึ้น
4. ปรับหาจุดแข็ง
เพราะเวลาหน้างานจริง อาจจะมีความขัดใจกันเกิดขึ้นว่าทำไมคนนี้ทำแบบนี้ ทำไมไม่ทำแบบนี้ ดังนั้น ต้องพยายามเข้าใจ ปรับหาจุดดีของเขาเอามาปรับใช้ และเข้าใจจุดด้อยเพื่อเรียนรู้ที่จะปิดมันอีกทีและดิลิเวอร์งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ทัศนคติที่ดี
ใครมีคุณสมบัติข้อนี้ ไม่ว่าจะทำงานกับอีกกี่เจนยังไงก็รอด! เพราะหากเรามีทัศนคติที่ดีแล้วนั้น ย่อมไม่มีอคติที่ไม่ชอบใครคนใดคนนึงไปก่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้ร่วมงาน ก็จะทำให้งานสำเร็จยากขึ้นแน่ๆหากมีทัศนคติลบที่คิดว่าเขาทำอะไรก็ผิดไปเสียหมดจนไม่อยากจะช่วยงานนั่นเอง
ทั้ง 5 เทคนิคนี้ ก็ถือเป็นเคล็ดลับดีๆในการทำงานร่วมกับคนต่างเจนให้แฮปปี้ รับรองว่าการทำงานจะสำเร็จไวได้แน่นอน