คำพูดเมื่อเอ่ยจากปากเเล้ว จะกลายเป็นนายของเราครับ ที่เอ่ยเเบบนี้เนื่องจากเมื่อคำพูดใดหลุดออกจากปากเราเเล้ว เราไม่สามารถทวงคืนหรือลบออกจากความทรงจำของผู้ฟังได้ เเละการพูดกลับไปกลับมานั้นก็ย่อมไม่ใช่นิสัยที่ดีนัก ก่อนจะเอ่ยปากเรื่องใดออกไป จึงต้องคิดให้ดีก่อนเสมอ เพราะเราคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดของเราเอง

อีกทั้งเรายังต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองเช่นกัน ดังที่มีประโยคคลาสสิคกล่าวไว้ว่า “การกระทำสำคัญกว่าคำพูด” หรือที่ภาษาอังกฤษใช้ว่า “Action speaks louder than words” เพราะการกระทำนั้นจะเป็นส่วนที่เเสดงให้เห็นชัดเจนที่สุด ไม่ว่าคุณจะรับปากหรือสัญญาไว้อย่างไร การกระทำที่ตามมานั้นคือ สิ่งที่จะบ่งบอกว่าคำพูดของคุณเชื่อถือได้หรือไม่ครับ

โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในโลกการทำงาน คำพูดของเราที่เอ่ยออกไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นการรับปากเรื่องใดๆก็ตาม ตั้งเเต่การส่งงาน จัดการงานที่เหลืออยู่ ล้วนเเล้วเเต่เป็นสิ่งสำคัญ หากใครที่ผิดคำพูดบ่อยๆ รับปากวันส่งงานเเล้วต้องเลื่อน มาสายกว่าที่ตกลงไว้ หรือไม่สามารถทำตามที่บอกไว้ได้ คนรอบข้างย่อมมองว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ พูดเเล้วไม่สามารถทำได้อย่างที่รับปาก พาลจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในการทำงานที่เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้ามองเห็น ซึ่งย่อมไม่ดีต่อเส้นทางการทำงานอย่างเเน่นอนครับ

ก่อนจะรับปากเรื่องใดจึงควรไตร่ตรองให้มั่นใจเสมอ ประเมินศักยภาพ เวลา รวมถึงเรื่องอื่นๆให้รอบคอบก่อน เพื่อที่ว่าคำพูดที่เอ่ยออกไปนั้นจะไม่ใช่เพียงคำตอบรับหรือคำสัญญาที่เลื่อนลอย เเต่เป็นสัจจะที่ใครๆต่างเชื่อถือครับ

สามารถติดตามบทความแง่คิด สาระแนะนำสำหรับคนทำงานได้จากบทความ “Inspiration” จาก JOBTOPGUN ได้ทุกสัปดาห์นะคะ