เชื่อว่าในยุคนี้ทุกคนมี Social Media เป็น “พื้นที่ส่วนตัว” ไว้สำหรับแชร์เรื่องราว
ความคิดเห็น และความรู้สึกในแต่ละวัน แต่อันที่จริงแล้ว ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสื่อสังคม ไม่มีทางที่มันจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวจริง ๆ ได้หรอก ซึ่งสิ่งที่เราแสดงออกในพื้นที่นั้นอาจจะส่งผลต่อการสมัครงานของเราก็ได้! วันนี้ พวกเราจึงขอมาแชร์วิธีจัดการ Social Media ของตัวเองให้เหมาะสมก่อนเริ่มสมัครงานกัน

HR อาจเช็กผู้สมัครงานผ่าน Social Media ก่อนเริ่มสัมภาษณ์

ว่าแต่ Social Media ส่งผลต่อการสมัครงานได้อย่างไร?

             ในมุมมองของผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในการรับสมัครคนเข้ามาทำงาน การได้ทำความรู้จักกับผู้สมัครงานก่อนเริ่มสัมภาษณ์งานจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกคนคนนี้มาอยู่ด้วยกันหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสนใจ บุคลิกภาพ หรือแม้แต่วิธีคิดของคน ๆ นั้น และพื้นที่ที่ทำให้ HR เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ก็คือ Social Media ของผู้สมัครนั่นเอง!
เพราะว่า Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter Instagram LinkedIn หรือสื่อออนไลน์อื่น ๆ นั้นเป็นพื้นที่ที่เรามักจะใช้แสดงออกอะไรก็ได้ตามที่เราคิดและรู้สึกอย่างอิสระ รวมถึงเป็นพื้นที่ในการสร้างภาพลักษณ์ในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่เจ้าของบัญชีนั้นต้องการ

             การเข้าถึง Social Media ของผู้คนสมัยนี้สามารถทำได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่กรอกชื่อ-นามสกุลหรืออีเมล์ของคนคนนั้นลงบน Search Engine ก็อาจจะพบข้อมูลทันทีเลยก็ได้ และเป็นไปได้ว่าอาจพบข้อมูลในเว็บไซต์อื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน ถ้าเนื้อหาที่เจ้าตัวทิ้งไว้ในนั้นมีทิศทางเชิงบวกก็ดีหน่อย แต่ถ้าหลุดไปทางเรื่องที่ไม่ดีก็อาจจะส่งผลให้มีโอกาสถูกเลือกน้อยลงได้ เช่น ตำหนิบริษัท ด่าเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เรามาจัดการ Social Media ของเรากันเถอะ!

             3 วิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยให้เราจัดการ Social Media ของตัวเองให้มีความพร้อม
ก่อนเริ่มสมัครงานได้มีดังนี้

              1)  ล็อกโปรไฟล์ไว้ไม่ให้เป็นสาธารณะ

             วิธีการนี้ค่อนข้างที่จะเรียกว่าง่ายที่สุดเลย ก็คือการตั้งค่าบัญชี Social Media ให้ “เพื่อน” หรือ “ผู้ติดตาม” เห็นเท่านั้น คนที่อยู่วงนอกก็จะไม่สามารถเห็นเนื้อหาบางอย่างของเราได้ถ้าเราไม่อนุญาต แต่ก็ต้องพึงระวังไว้ด้วยว่าทุกครั้งที่โพสต์หรือลงสตอรี่สิ่งใดก็ตามที่อาจมีความสุ่มเสี่ยง การตั้งค่าของโพสต์หรือสตอรี่นั้นไม่ได้หลุดไปอยู่ที่ “สาธารณะ”

              
              2)  ลดเนื้อหาในแง่ลบ

             ใครจะไปรู้ล่ะ บางที HR ของบริษัทที่เราสนใจอยู่อาจเป็นเพื่อนกับเราในพื้นที่ออนไลน์นั้นแล้วก็ได้! ดังนั้น นอกจากล็อกโปรไฟล์แล้ว พวกเราแนะนำให้กำจัดเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงออกไปด้วย ทั้งเนื้อหาที่ต่อว่าด่าทอคนอื่น เนื้อหา 18+ และรูปภาพของสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงพยายามไม่สร้างเนื้อหาในเชิงลบเพิ่มเติมไปอีกเพื่อเป็นการฝึกจัดการอารมณ์ตัวเองไปในตัว

             หลายคนอาจมองว่าสิ่งที่เราทำลงไปแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขอดีตได้อยู่ดี ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม แต่มันไม่สายที่จะเริ่มต้นใหม่นะ เพียงแค่ต้องยอมรับในสิ่งที่ผ่านมาและเดินหน้าต่อไป

              3)  เริ่มสร้างเนื้อหาในเชิงบวก

             วิธีการนี้เป็นวิธีการที่พวกเราแนะนำมากที่สุดเพราะนอกจากจะทำให้เรามีพลังบวกมากขึ้นแล้ว เนื้อหาเชิงบวกยังมีพลังในการดึงดูดสิ่งดี ๆ รอบตัวเข้ามาหาตัวเองด้วย ดังนั้น การแชร์ข้อความที่ช่วยสร้างกำลังใจ สร้างเนื้อหาที่แสดงให้เห็นความสามารถของเรา หรือแบ่งปันความรู้บน Social Media จึงเป็นสิ่งที่แนะนำให้ทำมาก ๆ แถมของแบบนี้ถ้าตั้งโพสต์ไว้เป็นสาธารณะจะก็ช่วยส่งเสริมให้ HR มีทัศนคติในแง่บวกกับเราด้วย

             ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพียงคำแนะนำที่พวกเราอยากแบ่งปันเพื่อให้ Social Media ของเราเป็นตัวช่วยให้มีโอกาสได้งานเพิ่มขึ้น แต่ถ้ารู้สึกว่าอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเองจริง ๆ พวกเราก็ไม่สามารถห้ามได้แต่ก็ต้องยอมรับในผลที่จะตามมาด้วยนะ และถึงแม้ว่าจะได้งานแล้วก็ยังต้องดูแล Social Media ของตัวเองให้ต่อเนื่องด้วย

จัดการ Social Media ของตัวเองเสร็จแล้วก็มาเริ่มสมัครงานกับ Jobtopgun กัน!

             ไม่ว่าจะเพิ่งเรียนจบใหม่หรือกำลังมองหางานใหม่อยู่ ค้นหางานใหม่ที่ตรงใจและ
โดนใจได้ที่ www.jobtopgun.com เว็บไซต์ที่รวบรวมงานในหลากหลายสายงานกว่า 5,000 ตำแหน่ง พร้อมตัวช่วยในการสร้าง resume ชั้นยอดอย่าง Super Resume ที่ฉายสปอตไลท์ไปที่จุดเด่นในตัวคุณ รวมถึงสามารถอ่านรีวิวบรรยากาศการทำงาน สวัสดิการ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสมัครงานของคุณได้ทางเว็บไซต์ www.yousayhrsay.com