รวม 5 เทคนิคการปฏิเสธ ไม่เสียเพื่อน ไม่เสียน้ำใจแน่นอน
หลายคนอาจรู้สึกลำบากใจในการปฏิเสธคน

             สำหรับใครหลายคนแล้ว การปฏิเสธนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นในการสื่อสารออกไปมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์ใดก็ตาม นั่นก็เพราะว่าพวกเขามักจะรู้สึกเกรงใจคนอื่น ไม่กล้าขัดใจ กลัวไม่ได้รับการยอมรับ รู้สึกเห็นใจหรือสงสารอีกฝ่าย หรือด้วยเหตุผลอีกมากมาย แต่การที่พวกเขาไม่ปฏิเสธคนอื่นเลยก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของพวกเขาเองในอนาคต หรือเกิดเรื่องแย่ ๆ ขึ้นมาได้ในวันที่พวกเขาเก็บความอัดอั้นไว้ไม่อยู่ วันนี้พวกเราจึงมาบอกเล่า 5 เทคนิคในการปฏิเสธคนอื่นที่ซอฟต์และดีต่อความสัมพันธ์ให้ได้ลองกัน

แนะนำ 5 วิธีการปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง เพื่อถนอมน้ำใจคนฟัง

3 เรื่องที่ต้องย้ำเตือนตัวเองก่อน Say Yes

ก่อนฝึกการปฏิเสธ เรามาปรับ Mindset กันนิดนึงก่อน

             หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่กล้าพูดเพื่อแสดงการปฏิเสธออกไป เชื่อว่าคุณมักจะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ “ความรู้สึกของคนอื่น” เป็นหลัก ซึ่งนั่นเป็นข้อดีนะ แต่การยอมรับทุกอย่างของคนอื่นโดยไม่มีเงื่อนไขนั้นก็มองได้ว่าเป็นการปฏิเสธที่จะดูแล “ความรู้สึกของตัวเอง” ดังนั้น สิ่งที่อยากให้ย้ำเตือนตัวเองทุกครั้งก่อนตบปากรับคำกับใครมีทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน

             1. ให้คนอื่นโอเคกับเราที่ตัวตนของเรา ดีกว่าที่เราตามใจพวกเขา

             สำหรับใครที่เลือกตอบตกลงแทนที่การปฏิเสธเพราะคาดหวังว่าคนอื่นจะชอบเรามากขึ้นนั้น อยากจะบอกว่านั่นไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืนเลย เพราะว่าการตอบตกลงอยู่ตลอดเวลามักจะทำให้เรากลายเป็นแค่ของตายสำหรับพวกเขา หรือไม่ก็อาจทำให้พวกเขารู้สึกเกรงใจจนไม่อยากมารบกวนอีกก็ได้ ดังนั้น ถ้าอยากจะทำให้ใครชอบต้องใช้ “ตัวตน” ไม่ใช่ “การตามใจ” นะ

             2. ทุกความสัมพันธ์ต้องมีตรงกลาง

             เราไม่จำเป็นต้องเอาด้วยกับทุกเรื่องของคนอื่นเพราะเกรงใจพวกเขาก็ได้ ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นไม่ได้เกิดขึ้นจากความเกรงใจอย่างเดียวซะหน่อย ดังนั้น ต้องหาสมดุลระหว่างสายสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นและความสบายใจของเราดูว่าช่วงไหนที่เราตอบตกลงเพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้ยังแข็งแรงอยู่ ช่วงไหนที่เราสามารถกล่าวปฏิเสธเพื่อตามใจตัวเองบ้าง

             3. ถ้าเขาไม่โอเคกับการปฏิเสธของเรา ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องจัดการเอง

             พวกเราเข้าใจคนที่กลัวการปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะมีปัญหาตามมานะ แต่ปัญหาคือถ้าเราตอบตกลงไปเรื่อย ๆ สิ่งที่ก่อกวนจิตใจของเรานี้ก็จะไม่หายไปไหนอยู่ดี มันไม่ใช่ภาระของเราเลยที่ต้องแบกความรู้สึกไม่ปลอดภัยไว้ตลอดเวลา ดังนั้น เราต้องมั่นคงกับการทำเพื่อตัวเองและปล่อยให้คนอื่นได้เรียนรู้การถูกปฏิเสธบ้าง ผลลัพธ์อาจไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้นะ

ผลของการปฏิเสธอีกฝ่ายตรงๆ อาจไม่ได้แย่อย่างที่คิด

การปฏิเสธด้วย Mindset เหล่านี้ จะให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นเมื่อมาคู่กับการสื่อสารที่ใช่

             มันก็มีเส้นบาง ๆ ระหว่าง การปฏิเสธที่หนักแน่นแต่แข็งกร้าว และ การปฏิเสธที่ชัดเจนแต่ทำให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกเสียน้ำใจ อยู่ นั่นขึ้นอยู่กับเทคนิคการสื่อสารของเรา ซึ่ง 5 เทคนิคนี้ใช้ได้ผลดีอย่างแน่นอน

             1. ใช้เหตุผลในการปฏิเสธ

             คนที่ไม่กล้าปฏิเสธมักจะคิดว่าเหตุผลของตัวเองในการปฏิเสธนั้นไม่มีค่ามากเท่ากับความสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่เรายึดมั่นก็มีค่าเสมอ ดังนั้น เพียงแค่เราแจ้งเหตุผลของเราให้สั้นและกระชับจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกโอเคที่สุด ถ้าเกิดเราสาธยายยาว ๆ จะกลายเป็นการเปิดช่องว่างให้พวกเขาแทรกด้วยข้อเสนออื่น ๆ มาก็ได้ แถมยังอาจทำให้เหตุผลของเราดูเป็นข้ออ้างมากกว่าอีกด้วย

             2. แข็งใจไว้และพูดออกไปตรง ๆ ว่า “ไม่”

             วิธีนี้เป็นวิธีการที่ซื่อสัตย์กับตัวเองมากที่สุดแล้ว นั่นก็คือการปฏิเสธอีกฝ่ายตามความรู้สึกของเราจริง ๆ แต่ศิลปะในการพูดว่า “ไม่” นั้นต้องอาศัยภาษากายของเราด้วย ถ้าเราพูดว่า “ไม่” พร้อมกับแสดงท่าทางที่ดูอ่อนน้อมและกล่าวขอบคุณหรือขอโทษตามมาด้วย จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าถึงเราจะปฏิเสธเขาแต่เราก็ยังแคร์เขาอยู่นะ

หนึ่งในศิลปะของการปฏิเสธ คือการใช้ภาษากายเข้าช่วย

             3. ใช้ความไม่ว่างเป็นตัวช่วยในการปฏิเสธ

             เราสามารถใช้ช่องว่างของความเกรงใจมาเป็นตัวช่วยในการปฏิเสธได้เหมือนกัน คำง่าย ๆ อย่างเช่น “ไม่สะดวก” “ติดธุระ” “มีนัดแล้ว” “ยังทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่เสร็จ” เป็นคำตอบที่ค่อนข้างให้ความรู้สึกกลาง ๆ อยู่แล้ว เชื่อว่าถ้าตบท้ายด้วยประโยค “ไว้โอกาสหน้านะ” จะยิ่งทำให้อีกฝ่ายใช้ลูกตื๊อกับเราน้อยลงด้วย แต่ก็อย่าใช้บ่อยเพราะอีกฝ่ายอาจรู้สึกน้อยใจได้

             4. เว้นระยะให้ตัวเองได้ทบทวนก่อนตอบกลับ

             ถ้าเราถูกชักชวนหรือขอร้องให้ทำอะไรสักอย่างแล้วผู้ถามไม่ได้ต้องการคำตอบทันที เราสามารถขอเวลาตัดสินใจก่อนได้นะ เพื่อให้เราได้ใช้เวลาคิดทบทวนกับตัวเองก่อน จากนั้น ถ้าอีกฝ่ายมาถามเราอีกครั้งก็ควรตอบเขาไปตรง ๆ ว่าเราตัดสินใจยังไง พยายามหลีกเลี่ยงการตอบแบบให้ความหวังด้วย แต่ถ้าเขาไม่ได้มาถามซ้ำกับเรา เราก็อาจเทแบบเนียน ๆ ได้

             5. ช่วยหาทางออกที่เหมาะสมให้กับอีกฝ่าย

             เมื่อเราต้องการปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในบางเรื่องกับผู้อื่น แทนที่เราจะตอบว่าเราไม่สามารถทำให้ได้จริง ๆ เพียงอย่างเดียว เราสามารถช่วยเหลือพวกเขาด้วยการหาวิธีแก้ที่ทำให้พวกเขาสบายใจขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราไม่สามารถไปตามนัดของเพื่อนได้ เราสามารถเสนอทางออกเป็นวันเวลาที่เราสะดวก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเจองานที่ใช่ใน Jobtopgun อย่าเผลอทำการปฏิเสธไปซะล่ะ!

             โอกาสมาทั้งที ไม่คว้าไว้คงจะเสียดายแย่เลยนะ! ไม่ว่าจะเพิ่งเรียนจบใหม่หรือกำลังมองหางานใหม่อยู่ ค้นพบงานดี ๆ ที่คุณปฏิเสธไม่ลงได้ที่ www.jobtopgun.com เว็บไซต์ที่รวบรวมงานกว่า 5,000 ตำแหน่งจากทุกสายงาน พร้อมตัวช่วยในการสร้าง resume ชั้นยอดอย่าง Super Resume ที่ฉายสปอตไลท์ไปที่จุดเด่นในตัวคุณ รวมถึงสามารถอ่านรีวิวเงินเดือน บรรยากาศการทำงาน สวัสดิการ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสมัครงานของคุณได้ทางเว็บไซต์ www.yousayhrsay.com

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..