เชื่อว่าเมื่อผ่านด่านสุดหินจนได้รับตำแหน่งและก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานอย่างเต็มตัว เหล่าคนทำงานน้องใหม่หรือ First Jobber ทั้งหลายคงเริ่มเบาใจและตื่นเต้นกับหน้าที่การงานที่กำลังจะรับผิดชอบ แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจจนลืมเตรียมความพร้อมกับชีวิตการทำงานที่ยังเหลืออีกหนึ่งด่านสำคัญคือ “ช่วงทดลองงาน” หรือ “ช่วงโปร” ซึ่งอาจมีผลลัพธ์ที่หลายคนไม่อยากพบเจอ ซึ่งก็คือ การ “ไม่ผ่านโปร” นั่นเอง เราจึงอยากชวนเหล่าคนทำงานมือใหม่มาดูกันว่า พฤติกรรมแบบไหนที่ทำให้ไม่ผ่านโปรและควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับเหล่าคนทำงานน้องใหม่ที่ไม่ควรเสียโอกาสในการทำงานไปอย่างไม่ควรจะเป็นในช่วงทดลองงานนี้

รวม 7 พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ไม่ผ่านทดลองงาน

             ช่วงทดลองงานสำคัญแค่ไหน? ทำไมคนทำงานมือใหม่ต้องรู้และเข้าใจเพื่อไม่ให้ “ไม่ผ่านโปร”

             เริ่มจากทำความเข้าใจถึงความสำคัญของ “ช่วงทดลองงาน” (Probation Period) หรือ “ช่วงโปร” ที่หลายคนมักพูดติดปากกันก่อน นี่คือช่วงเวลาในการประเมินความสามารถและศักยภาพในการทำงานของพนักงาน โดยจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน (ไปจนถึง 120 วัน ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดขององค์กร) ซึ่งในช่วงเวลานี้พนักงานใหม่จะต้องพยายามพิสูจน์ความสามารถ ทัศนคติ และการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรให้ผ่านมาตรฐานและอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจจากการประเมินขององค์กรนั้น ๆ เพื่อให้ได้ปรับเป็นพนักงานประจำอย่างมั่นคงต่อไป

             โดยความสำคัญของช่วงทดลองงานอยู่ตรงที่ หากพนักงานไม่สามารถทำงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ องค์กรอาจจะมีการพิจารณาต่อโปร หรือการยืดระยะเวลาในช่วงทดลองงานออกไปอีก และอาจไปถึงขั้นยกเลิกสัญญาจ้างงานหรือที่เรียกว่า “ไม่ผ่านโปร” ไปเลยก็ได้ หากไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินอย่างร้ายแรง เพราะฉะนั้นช่วงทดลองงานจึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เหล่าน้องใหม่วัยทำงานควรตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดไปพร้อมกับหลีกเลี่ยงการประพฤติผิดและพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ให้มากที่สุดนั่นเอง

             รู้แล้วเลี่ยงเลย! รวม 7 พฤติกรรมที่ทำให้เหล่าน้องใหม่ไม่ผ่านโปร!

             1. ไม่มีความตั้งใจ ขาดความรับผิดชอบ

             เรียกว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำมากที่สุดในช่วงทดลองงานเลยก็ว่าได้ เพราะความตั้งใจและความรับผิดชอบในหน้าที่การงานคือการแสดงถึงความสามารถในการทำงานของเราอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกับเหล่าน้องใหม่วัยทำงานที่ควรใช้ช่วงเวลานี้เรียนรู้งานอย่างตั้งใจให้มากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเก่งหรือมีความสามารถมากขนาดไหน หากขาดความตั้งใจและไร้ความรับผิดชอบ สถานีต่อไปคือคำว่าไม่ผ่านโปรอย่างแน่นอน

             2. ไม่สามารถทำงานเป็นทีม เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้

             ใครคิดว่าการทำงานเป็นทีมไม่สำคัญต้องคิดใหม่ หลายคนมาตกม้าตายไม่ได้ไปต่อในการทำงานที่เคยฝันไว้ เพียงเพราะไม่สามารถเป็นทีมเวิร์คหรือทำงานร่วมกับคนอื่นได้ โดยอาจเป็นเพราะการมีอีโก้ที่สูงจนเกินไป คิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก ไม่สามารถรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไปจนถึงการไม่อาจปฏิบัติกับคนอื่นด้วยความเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกันได้ ซึ่งในแทบทุกองค์กรนั้นคงไม่ต้องการคนเก่ง แต่ไม่สามารถทำงานกับคนอื่นได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

             3. ไม่มีวินัย ไม่รู้จักการบริหารเวลา

             ไม่ว่าจะเป็นองค์กรระดับไหน คนที่ไม่มีระเบียบวินัยและไม่ตรงต่อเวลา รวมทั้งไม่รู้จักบริหารจัดการเวลาในการทำงานย่อมถูกจัดให้เป็นคนที่ไม่มีความผิดชอบ ไม่เป็นมืออาชีพ และไม่อาจผ่านการประเมินไปได้ เหล่าน้องใหม่จึงไม่ควรลางาน ขาดงาน หรือมาสาย (แต่หากมีความจำเป็นจริง ๆ ควรแจ้งองค์กรอย่างชัดเจนและไม่ขาดการติดต่อไปโดยไม่บอกกล่าว) เพราะนี่คืออีกปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เราเสียโอกาสในการเป็นพนักงานประจำไปอย่างน่าเสียดาย

             4. ไม่พยายามเรียนรู้และพัฒนาตนเอง

             อีกหนึ่งพฤติกรรมที่เหล่าคนทำงานมือใหม่ควรหลีกเลี่ยงคือ การไม่เปิดใจเรียนรู้และพัฒนาตนเอง การแสดงออกว่าขาดความสนใจหรือความกระตือรือล้น ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่พยายามพัฒนาทักษะความรู้ที่จำเป็นในการทำงานย่อมไม่อาจผ่านการประเมินจากองค์กรที่ต้องการความก้าวหน้าได้

             5. ทำงานผิดพลาดซ้ำ ๆ ไม่เคยแก้ไขจุดบกพร่อง

             แม้จะไม่คำพูดที่ว่า ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด หากแต่กับชีวิตการทำงานนั้น การผิดพลาดซ้ำ ๆ และไม่เคยพยายามแก้ไขความบกพร่องนั้น ๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการขาดความพยายามในการแก้ไขปัญหาและไม่มีความตั้งใจที่จะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น คงไม่มีใครอยากจ้างงานคนที่ทำผิดพลาดและไม่คิดจะแก้ไขไปตลอด

             6. ติดโซเชียลมากเกินไปหรือใช้โซเชียลเป็นที่ระบายเรื่องงาน

             อาจเป็นการยากหากต้องงดเล่นโซเชียล แต่คงจะดีกว่าถ้าเราใช้โซเชียลอย่างพอดีและเหมาะสม โดยเฉพาะน้องใหม่ทั้งหลายที่อาจยังปรับตัวกับที่ทำงานใหม่ไม่ได้ พฤติกรรมติดโซเชียลอาจส่งผลกระทบกับงานอย่างไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการระบายหรือวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงานต่าง ๆ ลงในโซเชียลทุกประเภท เพราะนี่อาจกลายเป็นศรที่ย้อนมาเล่นงานคนโพสต์คนแชร์อย่างเราได้ร้ายแรงกว่าที่คิด

             7. ไม่สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ไร้มนุษยสัมพันธ์

             หนึ่งในทักษะของคนทำงานที่เป็นที่ต้องการลำดับต้น ๆ ในยุคนี้คือ ทักษะการสื่อสาร เพราะฉะนั้นคนที่ไม่สามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หรือสื่อสารไม่เป็นจนเกิดความผิดพลาด รวมทั้งคนที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่สามารถประสานงาน ติดตามงาน หรือส่งต่องานได้ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อองค์กรและไม่อาจผ่านช่วงทดลองงานไปได้นั่นเอง

             แต่ถ้าทำผลงานเต็มที่แล้ว ใครยังมีความรู้สึกว่างานนี้ยังไม่ใช่ของเรา อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะยังมีงานดี ๆ เงินเดือนเริ่ด ๆ อีกมากมายที่รอให้เราไปทดลองงานและพิสูจน์ความสามารถ ลองเข้าไปค้นหางานหลากหลายรูปแบบที่พร้อมเปิดโอกาสดี ๆ ในชีวิตได้ทันทีที่ JOBTOPGUN ได้เลย

             ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหางาน อยากสมัครงานบริษัทตำแหน่งไหน จะเป็นเด็กจบใหม่ไฟแรง หรือต้องการมองหางานประจำที่ช่วยขยับขยายเปลี่ยนสาย Job ให้ก้าวหน้า ก็สามารถหางานด่วนที่ใช่ ในบริษัทที่ถูกใจ ได้ที่ JOBTOPGUN ทั้งทางเว็บสมัครงานออนไลน์ ที่รวบรวมงานพร้อมข้อมูลเงินเดือนจากบริษัทชั้นนำไว้มากมายกับแอปหางานที่อัปเดตใหม่ทุกวัน ดูแลให้คุณได้งานจริง ด้วย Super Resume ที่ให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพ นำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร ยังมีรีวิวบริษัทที่ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทมากขึ้นตามความจริง โหลดแอป JOBTOPGUN ได้เลยวันนี้ แม้จบใหม่ก็หางานง่าย ได้งานดี ได้ที่ JOBTOPGUN