ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อว่า “ต้องเกิดขึ้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้” ไม่ว่ากับชีวิตหรือกับสิ่งใด ๆ ในโลก ไม่มีอะไรขัดขวางการเปลี่ยนแปลงได้ไปตลอดกาล และความเปลี่ยนแปลงอาจมาโดยไม่ได้ตั้งใจหรือโดยเจตนาก็ได้ สำหรับใครที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในองค์กร มีอยู่แนวคิดหนึ่งที่พูดถึงกันบ่อย ๆ ในสังคมที่มีชื่อว่า Butterfly Effect ซึ่งเปรียบเทียบการขยับปีกของผีเสื้อกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ แนวคิดนี้พูดถึงอะไรบ้าง และเราสามารถนำแนวคิด Butterfly Effect มาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไรบ้าง มาติดตามกัน!

เราสามารถนำแนวคิด Butterfly Effect มาใช้อย่างไร

แนวคิด Butterfly Effect คืออะไร?

             นักอุตุนิยมวิทยาและนักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อว่า Edward Lorenz ได้เป็นคนนำพาแนวคิดนี้สู่สังคมเมื่อช่วงราว ๆ ปี 1960-1970 แนวคิดนี้กล่าวถึงการกระทำเพียงเล็กน้อยที่สามารถส่งผลที่ยิ่งใหญ่มหาศาลได้ โดยเปรียบเทียบกับการกระพือปีกของผีเสื้อที่อาจก่อให้เกิดพายุได้ อาจจะฟังดูประหลาดแต่แนวคิดนี้ค่อนข้างมีความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Lorenz ได้ค้นพบและถ่ายทอดสิ่งนี้ให้กับคนอื่น

             ในช่วงเวลาก่อนที่ Lorenz จะตกตะกอนได้เป็นแนวคิด Butterfly Effect เขาต้องการคิดค้นวิธีการพยากรณ์อากาศให้แม่นยำด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถสร้างแบบจำลองที่เที่ยงตรงได้ จนมีอยู่วันหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังป้อนชุดตัวเลข 0.506127 สำหรับสร้างแบบจำลอง เขาเกิดไม่ต้องการป้อนตัวเลข 127 ข้างหลังเพราะว่าจำนวนทศนิยมนี้แทบจะไม่มีมูลค่ามากมายทางสถิติ แต่นั่นทำให้เขาสามารถสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์สำหรับพยากรณ์อากาศได้สำเร็จ

             เหตุการณ์นี้จึงทำให้เขาตระหนักได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลอันยิ่งใหญ่ได้ และสร้างเป็นแนวคิด Butterfly Effect ออกมาในที่สุด

Butterfly Effect กับความยิ่ง(วุ่น)ใหญ่ที่ตามมา

             แนวคิดเรื่อง Butterfly Effect นั้นมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบเป็นหลัก หรือง่าย ๆ ก็คือ เราไม่รู้หรอกว่าความยิ่งใหญ่นั้นหมุนวนให้ปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตก็มีโอกาสสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ทั้งหมด

             ยกตัวอย่างเรื่องของ Sir Isaac Newton หรือไอแซก นิวตัน ที่ทุกคนคุ้นเคยในฐานะผู้ที่ค้นพบกฎของแรงโน้มถ่วง ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องเล็ก ๆ อย่างการตกของแอปเปิ้ลที่เกิดขึ้นเป็นปกติจะเป็นแรงบันดาลให้เขาเกิดความสงสัยในเรื่องของแรงโน้มถ่วง และทำให้เขาศึกษาค้นคว้าจนพบกับทฤษฎีแรงโน้มถ่วงได้สำเร็จ

             ในทางกลับกัน Butterfly Effect ก็อาจหมายถึงเรื่องเล็ก ๆ แบบน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้เรื่องราวบานปลายโกลาหลไปได้เช่นกัน อย่างเช่นประกายไฟเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางกลุ่มแก๊สที่รั่วอยู่ก็ทำให้เกิดเป็นเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้ ทั้งที่จริงแล้ว ถ้าไม่มีประกายไฟดังกล่าวก็อาจไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้

Butterfly Effect กำลังบอกอะไรเราอยู่?

             สิ่งหนึ่งที่สามารถสังเกตได้จากแนวคิด Butterfly Effect คือเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตสำคัญเสมอ ยิ่งไม่รู้ว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตจะนำพาไปสู่เรื่องดีร้ายที่ใหญ่น้อยแค่ไหน ยิ่งต้องทำให้ทุกรายละเอียดของชีวิตดีที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่น รอยยิ้มเล็ก ๆ ของคุณต่อเพื่อนร่วมงานในวันนี้อาจทำให้คน ๆ นั้นกลายเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดอีกคนหนึ่งในชีวิตก็ได้ หรือเพียงแค่เช็กอีเมลอีกรอบหนึ่งก่อนกดส่งก็อาจช่วยเก็บข้อมูลที่เผลอเขียนผิดพลาดไปก็ได้ เป็นต้น

             อีกหนึ่งสิ่งที่ Butterfly Effect กำลังบอกใบ้เราอยู่ก็คือ ไม่มีอะไรที่อยู่ในการควบคุมของเราทั้งหมด จะสังเกตได้ว่าสิ่งที่พาเราไปสู่โอกาสที่แตกต่างนั้นมาจากการกระทำของเราเองบ้าง มาจากปัจจัยภายนอกบ้าง ไม่มีอะไรที่ชัดเจนแน่นอน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือถ้าเราใส่ใจในเรื่องเล็กน้อยในการกระทำของตัวเอง ในวันหนึ่งที่โอกาสเข้ามาจริง ๆ เราก็จะพร้อมสำหรับการโบยบินนั่นเอง หรือในทางกลับกัน ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแทน เราก็มั่นใจแล้วว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมไปแล้ว

Butterfly Effect กับการเปลี่ยนแปลงในองค์กร

             ถึงแม้ว่าแนวคิดเรื่อง Butterfly Effect จะไม่ได้นำพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้โดยตรง แต่ความเชื่อในการทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองให้ดีที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยนำพาให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคนที่มีความเชื่อแบบนี้อยู่รวมตัวกันและมุ่งหน้าเปลี่ยนแปลงเพื่อเป้าหมายเดียวกันแล้ว ก็มีโอกาสสร้างเป็นวิถีหรือวัฒนธรรมใหม่ขององค์กรขึ้นมาได้ และอาจสามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรได้โดยที่ไม่ต้องรอให้โอกาสมาถึง ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเรา ใช้ชีวิตให้ดีที่สุดและโอบรับกับทุกอย่างที่เข้ามาในอนาคต

             การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็ก ๆ ก็สร้าง Butterfly Effect กับชีวิตได้ เช่นการหางานที่ใช่ใน Jobtopgun!

             เพียงแค่ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยใน www.jobtopgun.com เว็บไซต์ที่รวบรวมงานในหลากหลายสายงานกว่า 30,000 ตำแหน่ง ก็อาจทำให้คุณได้เจองานในฝันได้ พร้อมตัวช่วยในการสร้าง resume ชั้นยอดอย่าง Super Resume ที่ฉายสปอตไลท์ไปที่จุดเด่นในตัวคุณ รวมถึงสามารถอ่านรีวิวเงินเดือน บรรยากาศการทำงาน สวัสดิการ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสมัครงานของคุณได้ทางเว็บไซต์ www.yousayhrsay.com