อัปเลเวล! 5 ทักษะการเป็นผู้จัดการ ต่อสายงานเพิ่มเงินเดือน!

             สำหรับคนที่มี Career Path มุ่งสู่การเป็นผู้จัดการ สิ่งสำคัญที่สุดในระหว่างทางคือ “การเตรียมตัวให้พร้อม” เพื่อพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน แต่คุณสมบัติของผู้จัดการจะต้องมีทักษะอะไรบ้างที่เหมาะสม ในบทความนี้เราได้ทำการรวบรวมมาให้แล้ว

คุณสมบัติของผู้จัดการ เรื่องควรรู้ก่อนเตรียมอัปเงินเดือน!

คุณสมบัติของผู้จัดการที่ดี ขอบเขตการทำงาน

เข้าใจขอบเขตงาน ตำแหน่ง “ผู้จัดการ” คือใคร?

             สำหรับอาชีพผู้จัดการ ถือเป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการวางแผน ควบคุม กำกับ และดูแลการทำงานของผู้อื่น เพื่อให้ภาพรวมสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ โดยอาชีพผู้จัดการนี้สามารถทำงานในองค์กรทุกประเภท ตั้งแต่องค์กรขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่มีในทุก ๆ สายงานอีกด้วย

ประเภทของผู้จัดการ

             ตำแหน่งผู้จัดการสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยประเภทของผู้จัดการที่พบทั่วไป ได้แก่

  • ผู้จัดการฝ่ายบุคคล (Human Resources Manager) มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านทรัพยากรบุคคล เช่น การสรรหาพนักงาน การจ้างงาน การพัฒนาพนักงาน การบริหารค่าตอบแทน
  • ผู้จัดการฝ่ายการตลาด (Marketing Manager) มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการตลาด เช่น การวางแผนกลยุทธ์การตลาด การวิจัยตลาด การสร้างแบรนด์
  • ผู้จัดการฝ่ายขาย (Sales Manager) มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการขาย เช่น การวางแผนการขาย การจัดการทีมขาย และการพัฒนาแผนการขาย เพิ่มยอดและกำไรให้องค์กร
  • ผู้จัดการฝ่ายการผลิต (Production Manager) มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการผลิต เช่น วางแผนการผลิต ควบคุมคุณภาพ การจัดการคลังสินค้า
  • ผู้จัดการฝ่ายการเงิน (Financial Manager) มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการเงิน เช่น วางแผนการเงิน ควบคุมงบประมาณ การบัญชี
  • ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารองค์กรทั้งหมด

การเตรียมตัวเปลี่ยนตำแหน่งสู่การเป็นผู้จัดการ

             การจะตั้งเป้าหมายเพื่อขยับตำแหน่งของตัวเองขึ้นสู่การเป็นผู้จัดการนั้น ไม่ใช่แค่มองทักษะที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม แต่คุณสมบัติของผู้จัดการที่ดีจะต้องพร้อมตั้งแต่ความคิด ประสบการณ์ทำงาน ตลอดจน Hard Skills และ Soft Skills ที่เกี่ยวข้อง แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณมีศักยภาพมากพอ ที่จะได้รับการโปรโมตหรือเปลี่ยนตำแหน่งงานที่ใหญ่กว่า เรามีวิธีเช็กเพื่อเตรียมตัวสู่การเป็นผู้จัดการที่สมบูรณ์แบบมาฝากแล้ว

             1. ประเมินจากการทำงานที่ผ่านมา

             ย้อนตรวจสอบผลงานของตัวเองที่ผ่าน ๆ มา ทั้งในรูปแบบของงานที่เป็นชิ้นเป็นอัน และกระบวนการที่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายทางการทำงาน เช่น การประสานงานระหว่างแผนก การตัดสินใจและการแก้ปัญหา การสื่อสารระหว่างทีมและลูกค้า รวมไปถึงขั้นตอนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย ก่อนจะนำมาวิเคราะห์ว่า ผลลัพธ์จากสิ่งที่เคยทำมา เป็นที่น่าพอใจมากน้อยแค่ไหน และเข้าเกณฑ์ที่มีคุณภาพมากพอหรือไม่ สำหรับการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่ใหญ่ และต้องรับผิดชอบขอบเขตงานที่กว้างมากกว่าเดิม

             2. หาประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง

             ประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของผู้จัดการได้มากขึ้น ซึ่งคุณสามารถหาประสบการณ์เหล่านี้ได้จากงานในตำแหน่งที่รับผิดชอบ ยกตัวอย่างการรับหน้าที่ทำงานในโปรเจกต์ที่ต้องใช้ทักษะและความสามารถของผู้จัดการ เช่น โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โครงการขยายตลาด ที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสาร การบริหารงาน และมอบหมายงานให้แก่คนในโปรเจกต์ไปทำต่อ เป็นต้น

             3. สร้างเครือข่ายให้แก่ตัวเอง

             มุ่งหน้าพัฒนาทักษะและวิสัยทัศน์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าร่วมงานสัมมนาหรือการประชุมที่เกี่ยวข้องกับสายงาน เพื่อเพิ่มโอกาสพบปะกับบุคคลที่มีประสบการณ์ พร้อมรับข้อมูล รวมไปถึงคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้จัดการในสายงานที่เหมาะสม นอกจากนี้เครือข่ายสายงานยังมีประโยชน์เป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนบริษัทเพื่อการเติบโตในสายอาชีพอีกด้วย

             4. เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

             เมื่อทำทั้งการประเมินตัวเอง หาประสบการณ์ทำงานเพื่อฝึกฝน ตลอดจนการเข้าหาผู้คนเพื่อสร้างเครือข่ายแล้ว สิ่งสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ คือการนำทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยพบเจอ มาประกอบร่างและนำไปฝึกฝน พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาด และสร้างคุณสมบัติของการเป็นผู้จัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยการเรียนรู้ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ บทความ หรือแม้แต่การเข้าร่วมหลักสูตรอบรมนั่นเอง

5 ทักษะการเป็นผู้จัดการที่ดี จดและจำ นำไปพัฒนาต่อ!

5 ทักษะการเป็นผู้จัดการ อัปสกิลเพิ่มเงินเดือน

             • ทักษะสร้างความสัมพันธ์ (Interpersonal Skills)

             เพราะตำแหน่งผู้จัดการ ถือเป็นอาชีพที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มงานบริหารในระดับของผู้นำ ที่ต้องทำงานร่วมกับคนในทีม และพนักงานแผนกอื่นอีกมากมาย ส่งผลให้การพัฒนาทักษะสร้างความสัมพันธ์ กลายเป็นสกิลแรก ๆ ที่ต้องให้ความใส่ใจ โดยคุณสามารถเตรียมตัวง่าย ๆ จากการพาตัวเองไปคลุกคลีอยู่ในวงสังคมของทีม ทั้งเรื่องงานและนอกเวลางาน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนการจัดเทรนนิ่ง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในฐานะของคนที่กำลังเตรียมตัวจะก้าวสู่การเป็นผู้จัดการ แต่เป็นคนไม่ค่อยเข้าสังคม ในส่วนนี้ก็อาจจะต้องพัฒนาเพิ่มขึ้น เพื่อให้ในอนาคตสามารถเข้าถึงคนในทีมได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

             • ทักษะการสื่อสารและจูงใจในการทำงาน (Communication and Motivation)

             ผู้จัดการที่ดีจะต้องสื่อสารเก่ง เพราะนี่จัดเป็นทักษะที่สำคัญมากในการทำงาน ซึ่งรวมตั้งแต่การพูด ฟัง อ่าน และเขียน โดยนอกจากจะต้องใช้ในการสื่อสารระหว่างคนในทีมแล้ว คุณยังต้องรับหน้าที่เป็นตัวกลางการสื่อสารและเชื่อมต่อระหว่างทีมของตัวเอง กับทีมอื่น ๆ รวมไปถึงผู้บริหารระดับสูงอีกด้วย

             นอกจากนี้ทักษะการสื่อสารยังมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก ด้านการโน้มน้าวและสร้างแรงจูงใจเพื่อให้เกิดการทำงานที่ดี ต่อยอดจากสกิลการสร้างความสัมพันธ์ คือการเปิดกว้างและพร้อมพูดคุยกับทีมได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ลดระยะห่างทางการงาน เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและบรรยากาศภายในทีมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

             • ทักษะการจัดการและมอบหมายงาน (Organisation & Delegation)

             ทักษะการจัดการและมอบหมายงาน ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะการเป็นผู้จัดการที่สำคัญ เพราะด้วยตำแหน่งที่ต้องบริหารงานและกำลังคน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทำให้ทักษะการบริหารเวลาเพียงอย่างเดียวไม่อาจเพียงพออีกต่อไป แต่คุณยังต้องสามารถจัดการและบริหารงาน เพื่อมอบหมายให้แก่คนที่มีศักยภาพเหมาะสม เพื่อให้ฟันเฟืองสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่ติดขัด จนนำไปสู่ความสำเร็จของทีมที่สร้างความพอใจให้แก่องค์กร

             • ทักษะการวางแผนงานและคิดเชิงกลยุทธ์ (Forward Planning and Strategic Thinking)

             การบริหารจัดการและมอบหมายงาน จะไม่สำเร็จได้อย่างเต็มที่หากผู้ดำรงตำแหน่งขาด “ทักษะการวางแผนงานและคิดเชิงกลยุทธ์” สกิลสำคัญที่ทำให้คุณสามารถมองภาพใหญ่ได้อย่างรอบด้านและทะลุปรุโปร่ง ผ่านการโฟกัสที่ตรงจุด เพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Put the right man at the right place. จากการบริหารคนตามกลยุทธ์ที่เหมาะสม เร่งประสิทธิภาพการทำงาน เวลา และผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งในระยะยาวก็จะช่วยให้บริษัทลดต้นทุนและเพิ่มกำไรจากผลประกอบการที่มากขึ้นได้อีกด้วย

             • ทักษะการแก้ปัญหา และการตัดสินใจ (Problem Solving and Decision Making)

             ทักษะการเป็นผู้จัดการที่ดีที่ขาดไปไม่ได้คือ การแก้ปัญหาและตัดสินใจที่เฉียบแหลม ภายใต้ระบบความคิดที่เป็นขั้นเป็นตอน สามารถจัดการได้อย่างเฉลียวฉลาด แยกแยะงานและอารมณ์ออกจากกันได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นผลดีทั้งต่อทีม และความสัมพันธ์ภายในองค์กร จนนำไปสู่ประสิทธิผลคุณภาพมากมายที่บรรลุได้ตามเป้าหมายของบริษัทเป็นหลักนั่นเอง

             เริ่มต้นพัฒนาทักษะเพื่อการเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบกันไปแล้ว หากวันนี้คุณมั่นใจในศักยภาพที่เพียบพร้อม และอยากจะมองหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมในบริษัทที่ต้องการ ให้ JOBTOPGUN เว็บสมัครงานสำหรับคนรุ่นใหม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของคุณได้แล้ววันนี้ พร้อมช่วยสนับสนุนด้วยฟีเจอร์การหางาน ตอบสนองความต้องการที่จะสมัครงานตำแหน่ง Manager ดี ๆ ด้วย Super Resume ที่ได้รับการยอมรับจากกว่า 30,000 บริษัทชั้นนำ ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างความประทับใจแก่ HR ให้คุณโดดเด่นเหนือผู้สมัครรายอื่น ใช้งานสะดวกผ่านเว็บไซต์และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-853-6999 

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..