เข็มทิศชี้งาน! เลือกงาน Part-Time หรือ Full-Time ดีกว่ากัน ?

             หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังสับสนบนเส้นทางของการทำงาน ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องไปทิศทางไหน ระหว่างการเป็นพนักงานแบบไม่เต็มเวลา/พาร์ตไทม์ (Part-Time) หรือพนักงานเต็มเวลาทั่วไป (Full-Time) ในวันนี้เราจะมาอธิบายกันให้ชัด ๆ ไปเลยว่าพนักงานประจํากับพนักงานพาร์ตไทม์ มีความแตกต่างกันยังไง ?

พาร์ตไทม์ (Part-Time) กับฟูลไทม์ (Full-Time) ต่างกันยังไง ?

การทำงานเป็นพนักงานประจํากับพนักงานพาร์ทไทม์ ต่างกันยังไง

พนักงานประจำ (Full-Time)

             เริ่มต้นกันที่พนักงานประจำ หรือที่เรียกกันว่าทำงานแบบฟูลไทม์ (Full-Time) ซึ่งเป็นลักษณะของการทำงานแบบกำหนดเวลาชัดเจนตามมาตรฐาน เช่น ทำงานวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. เป็นต้น โดยจะทำเกินจากนั้นก็ได้ แต่ทางบริษัทก็จะให้ค่าล่วงเวลา (OT) เพิ่มเป็นกรณีพิเศษไป

             นอกจากนี้ยังมีกำหนดรายได้แบบตายตัวที่เรียกกันว่า “เงินเดือน” ซึ่งจะมาจากการตกลงตั้งแต่ขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน และจะปรับขึ้นให้ตามเงื่อนไขที่กำหนดในนโยบายของบริษัทนั้น ๆ และที่สำคัญการทำงานเป็นพนักงานประจำ จะต้องได้สวัสดิการขั้นพื้นฐาน อย่างประกันสังคม วันหยุด วันลา รวมไปถึงโบนัสอื่น ๆ ตามผลประกอบการ เป็นต้น

             ข้อดีของงานฟูลไทม์

  • มีรายได้มั่นคงและแน่นอนในทุก ๆ เดือน
  • มีสวัสดิการขั้นพื้นฐานและโบนัสรองรับ
  • ให้สังคมในการทำงานที่ดี
  • มีโอกาสเรียนรู้งานจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน
  • มีวันหยุดชัดเจน ตายตัว
  • สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งการขอสินเชื่อ กู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ
  • สะดวกกว่าเรื่องการยื่นภาษี เพราะบริษัทจะช่วยดำเนินการและทำเอกสารเบื้องต้นให้
  • โอกาสเติบโตในสายอาชีพที่มากกว่า พร้อมได้ Connection จากการทำงานที่กว้างขวาง
  • หากต้องออกจากงาน จะมีโอกาสได้รับเงินชดเชยตามที่กฎหมายระบุเอาไว้

             ข้อจำกัดของงานฟูลไทม์

  • ต้องทำงานตามกำหนดเวลา
  • มีแผนการทำงานตายตัว และขาดอิสระในบางครั้ง
  • เงินเดือนมีโอกาสตัน เจอเพดานที่ทำให้ไม่ขยับขึ้นได้อีก
  • แม้จะมีวันหยุดที่แน่นอน แต่ก็เป็นจำนวนที่จำกัด ต้องบริหารให้ดี
  • มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้น ยกเว้นจะได้ที่ทำงานแบบ Hybrid ที่จัดสรรวันเข้าออฟฟิศได้
  • อาจมีปัจจัยที่ทำให้ปรับตำแหน่งช้า 
  • โบนัสไม่แน่นอน คาดหวังยากเพราะเป็นไปตามผลประกอบการ

พนักงานพาร์ตไทม์ (Part-Time)

             หลังจากที่รู้ความหมายของพนักงานประจำไปแล้ว ก็ไปต่อกับพนักงานพาร์ตไทม์ ที่คนสงสัยว่าต่างกันยังไง ? ขออธิบายแบบง่าย ๆ เลยก็คือ การทำงานแบบพาร์ตไทม์จะเป็นการเลือกทำงานตามเวลาที่สะดวก โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง และคิดตามวันทำงานจริง เหมาะสำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่หารายได้เสริมและไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน โดยจะนำไปใส่ในเรซูเม่เพื่อสร้างโปรไฟล์ก็ได้เหมือนกัน

ทำงานพาร์ตไทม์กับฟูลไทม์ ต่างกันยังไง

             ข้อดีของงานพาร์ตไทม์

  • ช่วยสร้างรายได้เสริมในช่วงระยะเวลาว่างงาน หรือในช่วงที่กำลังศึกษาเล่าเรียน
  • เป็นหนทางการเรียนรู้งาน ช่วยปูพื้นฐานก่อนไปสมัครงานจริง
  • รับประสบการณ์และทักษะที่ไม่มีในห้องเรียน สามารถนำไปใช้ได้ทั้งการดำเนินชีวิตประจำวันและการทำงาน
  • พัฒนาทักษะการสื่อสารได้อย่างก้าวกระโดด จากการเรียนรู้วิธีการทำงานและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
  • ช่วยเพิ่มทักษะการบริหารเวลาการใช้ชีวิตและการทำงาน ให้คุณมีวินัยมากขึ้น
  • มีความเครียดและความกดดันน้อยกว่าการทำงานประจำมาก

             ข้อจำกัดของงานพาร์ตไทม์

  • ค่าแรงแบบรายชั่วโมงที่อาจทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
  • ไม่ได้รับสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เช่น ประกันกลุ่ม กองทุนเลี้ยงชีพ
  • ขาดความมั่นคง เพราะเป็นสัญญาจ้างระยะสั้น
  • ชั่วโมงการทำงานอาจไม่แน่นอน โดยจะขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ
  • ไม่มีหรือมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพค่อนข้างน้อย
  • ไม่มีวันหยุดประจำ ต้องจัดสรรเวลาวันหยุดและวันทำงานเอง
  • ยากที่จะหลีกเลี่ยงการทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ได้

สรุป ! งานพาร์ตไทม์กับฟูลไทม์ ต่างกันยังไง ?

             กล่าวโดยสรุปหลังจากที่ได้อธิบายไปในข้างต้น จะพบว่าทั้งงานพาร์ตไทม์และงานประจำ ต่างก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะตอบโจทย์กับกลุ่มคนที่ไม่เหมือนกัน โดยการทำงานประจำหรือฟูลไทม์ก็จะเหมาะกันคนที่ต้องการความก้าวหน้าในชีวิต เป็นวัยทำงานที่ต้องการความมั่นคง ชอบอยู่ในกรอบและมีเส้นตายตัวกำหนดชัดเจน เพื่อการันตีว่าจะสามารถทำงานและได้รับผลตอบแทนที่คำนวณตรงเผงในทุก ๆ เดือน

             ในทางกลับกัน การทำงานแบบพาร์ตไทม์ค่อนข้างอิสระ และยากที่จะควบคุม ทำให้เหมาะกับน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา ที่สามารถทำงานนอกเวลาเรียน วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อรับค่าแรงคำนวณเป็นรายชั่วโมงตามการทำงานจริงได้ โดยอาจไม่ได้คิดถึงความก้าวหน้า แต่จะเหมาะสำหรับการหาประสบการณ์และรายได้เสริมนั่นเอง มองหางานทั้ง Full-Time และ Part-Time ที่ตอบโจทย์ตัวเองในสายงานที่ถนัดได้แล้ววันนี้ แค่เลือกใช้บริการเว็บไซต์ของ JOBTOPGUN แพลตฟอร์มหางานที่ครอบคลุมทุกบริษัทชั้นนำในไทย พร้อมอัปเดตตำแหน่งใหม่ สร้างโอกาสได้ทุกวัน นอกจากนี้ยังมี Super Resume ที่ให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..