|
จังเกิลราฟท์เปรียบดังดินแดนห่างไกลแสงสีแม้จะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก
อาจเป็นเพราะการเดินทางมาถึงซึ่งต้องอาศัยเรือหางยาวเป็นหลัก ไม่มีถนนสะดวกสบายให้รถเข้าถึงโดยง่าย
ทำให้ผู้มาเยือนเหมือนหลุดเข้ามาในวันเวลาเก่าๆ ที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเสียงรถยนต์
ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ก็จะต้องไปกังวลถึงใครหรือถึงอะไรอีกเล่า
ในเมื่อคนรู้ใจอยู่ใกล้ๆ นี่แล้ว
ค่ำคืนท่ามกลางเสียงหรีดหริ่งเรไรและแผ่วเสียงน้ำไหลผ่านคือช่วงเวลาที่เราจดจำและประทับใจ
แสงตะเกียงนวลที่สาวมอญนำมาวางไว้หน้าห้องนอนทุกห้องและบนโต๊ะยาวส่องไล่ความมืด
บนฟ้านั้นเล่าก็ดารดาษไปด้วยดวงดาวนับร้อยนับพันแข่งกันประชันแสง เรานอนแหงนหน้ามองฟ้ายามราตรีอยู่บนชานไม้ริมน้ำพักใหญ่
ก่อนได้ยินเสียงฆ้อง กลอง รัวเป็นสัญญาณบอกว่าการแสดงระบำมอญในเรือนแพหลังท้ายสุดกำลังเริ่มต้น
ระบำชุดต่างๆ ที่มีหนุ่มสาวและเด็กชาวมอญร่วมแสดงเป็นเวลาราวครึ่งชั่วโมงทำให้ค่ำคืนกลางไพรน่าประทับใจยิ่งขึ้น |
|