IT Risk
Islamic Bank of Thailandหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก:
ประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยง:
- ระบุและประเมินความเสี่ยงด้านไอทีที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กร
- วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงเหล่านั้น
- จัดทำรายงานความเสี่ยงเพื่อนำเสนอต่อผู้บริหาร
- พัฒนานโยบายและมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
- กำหนดแนวทางปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยข้อมูล
- สร้างระบบการควบคุมภายในเพื่อลดความเสี่ยง
- ตรวจสอบระบบและเครือข่ายขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ
- ติดตามและประเมินประสิทธิภาพของมาตรการรักษาความปลอดภัย
- ตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
- พัฒนากลยุทธ์ในการจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินทางไซเบอร์
- ตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ดำเนินการฟื้นฟูระบบหลังเกิดเหตุการณ์
- จัดทำหลักสูตรฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์แก่พนักงาน
- สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
- ความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยี: มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่าย และระบบรักษาความปลอดภัย
- ประสบการณ์ในการบริหารความเสี่ยง: มีประสบการณ์ในการประเมิน วิเคราะห์ และจัดการความเสี่ยงด้านไอที
- ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับ: เข้าใจกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูล
- ทักษะการสื่อสาร: สามารถสื่อสารข้อมูลทางเทคนิคให้ผู้บริหารและพนักงานระดับอื่นๆ เข้าใจได้
- ทักษะในการแก้ไขปัญหา: สามารถวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- มีความรับผิดชอบสูง: สามารถทำงานภายใต้แรงกดดันและมีระเบียบวินัย
ทักษะที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม:
- Certifications: เช่น CISSP, CISM, CISA
- ประสบการณ์ในการใช้งานเครื่องมือรักษาความปลอดภัย: Firewall, IDS/IPS, SIEM, Vulnerability Scanner
- ความรู้เกี่ยวกับ Cloud Security
- Provident Fund
- ค่าช่วยเหลือบุตร
- Scholarship/ education allowance
- ค่ารักษาพยาบาลคู่สมรสและบุตร
- ค่าศึกษาบุตร
- 5-day work week
- Health insurance
- Accident Insurance
- สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน
- Employee's uniform
- Performance/results-based bonus
“ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย” จัดตั้งตามพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ธนาคารตระหนักเสมอว่าบริการตามแนวทางอิสลาม สามารถสนองต่อความต้องการของประชาชนทั่วไปได้โดยไม่จำกัดให้อยู่เพียงในระบบธนาคารกระแสหลัก ธนาคารจึงมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ทันสมัย และให้บริการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ภายใต้หลักคุณธรรมที่ใส่ใจ ห่วงใยทุกกลุ่มสังคม เคร่งครัดในหลักศาสนาอิสลาม ยึดมั่นในสัญญาที่ตกลง และบริหารงานด้วยความโปร่งใส
ด้วยเหตุนี้ธนาคารอิสลาม จึงเป็นธนาคารที่แตกต่างและทางเลือกใหม่ให้กับทุกคน ไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนา และในเดือนตุลาคม 2550 กระทรวงการคลังได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ทำให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยปัจุบันธนาคารมี 96 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ