ทนายความประจำออฟฟิต

1. **การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย**: ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าทั้งในด้านกฎหมายทั่วไปและกฎหมายเฉพาะทาง เช่น กฎหมายอสังหาริมทรัพย์, กฎหมายสัญญา, หรือกฎหมายธุรกิจ

2. **การร่างและตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย**: รวมถึงการร่างสัญญา, ข้อตกลง, และเอกสารทางกฎหมายต่างๆ เช่น สัญญาซื้อขาย, สัญญาเช่า, หรือสัญญาเงินกู้

3. **การเจรจาและเป็นตัวแทนของลูกค้า**: ในกรณีที่เกิดข้อพิพาท ทนายความจะเป็นตัวแทนในการเจรจา หรือยื่นข้อเสนอแก้ไขข้อขัดแย้ง และการดำเนินคดีในศาลหากจำเป็น

4. **การดำเนินการตามกฎหมาย**: รวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การจัดการหนี้สิน และการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย

5. **การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและการป้องกันความเสี่ยง**: ช่วยให้ลูกค้าปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต

6. **การตรวจสอบและปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมายของลูกค้า**: ตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมายของลูกค้าในกรณีต่างๆ

7.นิติกรรมสัญญาต่างๆ ให้กับลูกค้าต่างชาติที่ซื้อบ้าน/เช่าที่ดินในโครงการ

8.จัดการและดำเนินการเกี่ยวกับสัญญาเงินกู้ต่างๆ รวมถึงการติดตามและตรวจสอบเอกสารทางการเงิน

9.ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมต่างๆ

10.เขียนและจัดทำเอกสารทางกฎหมาย รวมถึงการสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติในภาษาอังกฤษ

11.ประสานงานกับหน่วยงานราชการและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและการจัดการอสังหาริมทรัพย์

12.ทำการพบลูกค้าเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี เพื่อทำความเข้าใจในกรณีที่จะฟ้องร้องและประเมินสถานการณ์ทางกฎหมาย

13. ฟ้องคดี/ขึ้นศาล ต่างๆหากมี

1. **ความรู้ทางกฎหมายที่แข็งแกร่ง**: ทนายความควรมีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายสัญญา, กฎหมายอสังหาริมทรัพย์, กฎหมายธุรกิจ, กฎหมายภาษี หรือกฎหมายครอบครัว เพื่อสามารถให้คำปรึกษาที่ถูกต้องและแม่นยำ

2. **ประสบการณ์ในกระบวนการฟ้องร้อง**: ทนายความที่มีประสบการณ์จะมีความชำนาญในการดำเนินคดีและฟ้องร้องในศาล รวมถึงการนำเสนอหลักฐาน การวิเคราะห์คดี การเจรจาต่อรอง และการทำความเข้าใจกับกระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในคดี

3. **ทักษะในการเจรจาต่อรอง**: ทนายความที่มีประสบการณ์สามารถเจรจาและหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้ ทั้งในกรณีของการตกลงยุติคดีหรือการต่อรองเงื่อนไขต่างๆ ที่มีผลต่อผลประโยชน์ของลูกค้า

4. **ประสบการณ์ในการจัดทำเอกสารทางกฎหมาย**: ทนายความต้องมีความเชี่ยวชาญในการจัดทำสัญญาและเอกสารทางกฎหมายต่างๆ ให้ถูกต้องและสมบูรณ์ รวมถึงการตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปรับปรุงเอกสาร

5. **ความสามารถในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ**: ทนายความต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ดี ทั้งการเขียนเอกสารทางกฎหมายและการพูดคุยกับลูกค้าในลักษณะต่างๆ รวมถึงการสื่อสารกับศาล, ฝ่ายตรงข้าม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

6. **ประสบการณ์ในการทำงานกับลูกค้าต่างชาติ**: ทนายความที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับลูกค้าต่างชาติจะเข้าใจความต้องการและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหรือการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งสำคัญในกรณีที่ลูกค้าของทนายมีความต้องการในด้านนี้

7. **ความเป็นมืออาชีพและความซื่อสัตย์**: ทนายความที่มีประสบการณ์จะต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทำงานอย่างมืออาชีพ รวมถึงการรักษาความลับและความไว้วางใจจากลูกค้า

8. **การอัพเดตความรู้ทางกฎหมาย**: เนื่องจากกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทนายความที่มีประสบการณ์จะต้องมีการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ และอัพเดตตัวเองกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและการปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

ทนายความที่มีประสบการณ์เหล่านี้จะสามารถให้คำปรึกษาและการดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างมีคุณภาพและช่วยแก้ไขปัญหาทางกฎหมายของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ.